วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ข้อสอบกลางภาค Signal Analysis ภาคต้น ๒๕๔๗

clip_image002

คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

ข้อสอบกลางภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา ๒๕๔๗

รายวิชา ๒๐๔๓๗๑ เทคนิคการแปลงในการวิเคราะห์สัญญาณ หมู่ที่ ๑

วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลา ๑๖.๐๐-๑๙.๐๐


คำสั่ง

๑. ข้อสอบมีทั้งสิ้น ๗ ข้อ ๗ หน้า (๘ แผ่น นับรวมปก) คะแนนเต็ม ๗๐ คะแนน

๒. เขียน ชื่อ‑นามสกุล และเลขประจำตัว ลงในกระดาษคำถามทุกแผ่น

๓. ทำข้อสอบทั้งหมดลงในกระดาษคำถาม

๔. เขียนคำตอบในด้านที่มีคำถามเท่านั้น อนุญาตให้ใช้หน้าที่ว่างเป็นกระดาษทดได้ แต่จะไม่นับเป็นคำตอบ

๕. ในการเขียนคำตอบ ให้ใช้ปากกาหมึกสีดำหรือน้ำเงิน หรือดินสอดำเท่านั้น

๖. อนุญาตให้นำเอกสารใดๆเข้าในห้องสอบ

๗. อนุญาตให้นำเครื่องคิดเลขใดๆเข้าในห้องสอบ

๘. ไม่อนุญาตให้นำเครื่องคำนวณที่มีพอร์ตสื่อสารแบบไร้สายเข้ามาในห้องสอบ

๙. ห้ามแยกข้อสอบออกจากกัน หากข้อสอบแยกออกจากกันให้แจ้งกรรมการทันที

๑๐. อุปกรณ์สื่อสารที่เปิดอยู่ทุกชนิด ถือเป็นการส่อเจตนาทุจริต


   

ข้อที่

รวม

คะแนนเต็ม

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

๑๐

๗๐

แต้ม

               

อ.นนทวัฒน์ จันทร์เจริญ

ประธานกรรมการอำนวยการสอบ

อ.ดร.พีรวัฒน์ วัฒนพงศ์

กรรมการออกข้อสอบ

ผศ.ดร.พันธุ์ปิติ เปี่ยมสง่า

กรรมการออกข้อสอบ


๑ (๑๐ คะแนน)

จากกราฟ ภาพ (ก)—(ซ) ด้านล่างนี้ แสดงเฉพาะลักษณะคร่าวๆของสัญญาณ โดยแกนตั้งอาจเป็นclip_image007หรือclip_image009 ก็ได้ แกนนอนอาจเป็น clip_image011หรือclip_image013ก็ได้ และกราฟก็ไม่ได้แสดงสเกลที่ถูกต้อง ถ้ากำหนดให้ DT = discrete time, CT = continuous time, FT = Fourier Transform, FS = Fourier Series จงจับคู่รูปกราฟของการแปลงจากต้นทางที่กำหนดให้

๑.๑ (ก)clip_image015? (๒ คะแนน) ตอบ ___(ค)_____

๑.๒ (ค)clip_image015[1]? (๒ คะแนน) ตอบ___(ก)_____

๑.๓ (ง)clip_image017? (๒ คะแนน) ตอบ___(ฉ)_____

๑.๔ (จ)clip_image019? (๒ คะแนน) ตอบ___(ง)_____

๑.๕ (ฉ)clip_image021? (๒ คะแนน) ตอบ___(ง)_____

 

clip_image023

(ก)

clip_image025

(ข)

clip_image027

(ค)

clip_image029

(ง)

clip_image031

(จ)

clip_image033

(ฉ)

clip_image035

(ช)

clip_image037

(ซ)


๒ (๑๐ คะแนน – ข้อย่อยข้อละ ๒ คะแนน เลือกทำ ๕ ข้อ)

กำหนดให้

  • · clip_image039 และ clip_image041 เป็นสัญญาณเข้าที่ไม่ต่อเนื่องและต่อเนื่องตามเวลาตามลำดับ
  • · clip_image043 และ clip_image045 เป็นสัญญาณออกที่ไม่ต่อเนื่องและต่อเนื่องตามเวลาตามลำดับ

ให้ตอบว่าระบบต่อไปนี้ เป็น causal, have memory, linear, หรือ time-invariant โดยกำหนดให้ ทุกระบบนั้น ไม่มีพลังงานใดๆ ก่อนเวลาclip_image041[1] โดยใส่เฉพาะเครื่องหมาย ü ในตารางด้านล่างนี้

ใส่ ยิ้ม หน้าข้อที่เลือกห้าข้อ

ระบบ

Causal

have memory

Linear

time-invariant

 

clip_image047

ยิ้ม

ยิ้ม

ยิ้ม

ยิ้ม

 

clip_image049

ยิ้ม

     
 

clip_image051

ยิ้ม

 

ยิ้ม

ยิ้ม

 

clip_image053

 

ยิ้ม

ยิ้ม

ยิ้ม

 

clip_image055

ยิ้ม

ยิ้ม

 

ยิ้ม

 

clip_image057

ยิ้ม

ยิ้ม

 

ยิ้ม

 

clip_image059

ยิ้ม

ยิ้ม

ยิ้ม

ยิ้ม

 

clip_image061

 

ยิ้ม

ยิ้ม

ยิ้ม

 

clip_image063

ยิ้ม

 

ยิ้ม

ยิ้ม

 

clip_image065

ยิ้ม

     


๓ (๑๐ คะแนน -- เลือกทำหนึ่งข้อระหว่าง (ก) และ (ข))

(ก) กำหนดให้ clip_image067,clip_image069 ให้แสดงการหา clip_image009[1]

(ข) ถ้าclip_image072, clip_image074 โดยที่ clip_image076 ให้นิสิตหา clip_image078

นิสิตเลือกทำข้อ ___________ (ระบุ)

(ก)

clip_image080

clip_image082

(ข)

clip_image084

clip_image086


๔ (๑๐ คะแนน)

กำหนดให้นาฬิกาแบบเข็มเรือนหนึ่งซึ่งตั้งเวลาเริ่มต้นไว้ที่ ๑๒ นาฬิกา โดยเข็มนาทีจะกระโดดในตำแหน่งของนาทีเท่านั้น นาฬิกาเรือนนี้ได้รับการดัดแปลงให้อัตราเร็วรอบของเข็มนาทีสูงขึ้น clip_image088 เท่า โดยอัตราเร็วรอบของเข็มชั่วโมงเปลี่ยนตามสัดส่วน

หากเราตั้งกล้องถ่ายภาพยนตร์ที่ใช้ฟิล์มซึ่งมีอัตราการชักภาพ (Sampling rate) ๑๐๐ ภาพต่อวินาที เพื่อถ่ายภาพนาฬิกาดัดแปลงเรือนนี้ จากนั้นนำภาพที่ชักออกมามาแสดงผลเป็นภาพยนตร์ด้วยการฉายหน้าจอซ้ำ

· ถ้า clip_image090แล้วให้วาดภาพ ๑๐ เฟรมแรกของการชักภาพโดยแสดงเฉพาะตำแหน่งของเข็มยาว แสดงบนฟิล์มดังนี้

clip_image091

clip_image092

clip_image093

clip_image094

clip_image091[1]

เฟรมที่ 1

เฟรมที่ 2

เฟรมที่ 3

เฟรมที่ 4

เฟรมที่ 5

clip_image092[1]

clip_image093[1]

clip_image095

clip_image091[2]

clip_image096

เฟรมที่ 6

เฟรมที่ 7

เฟรมที่ 8

เฟรมที่ 9

เฟรมที่ 10

การมองภาพเคลื่อนไหวในภาพยนตร์ เป็นการนำภาพจากหลายๆเฟรมมาแสดงผลอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราเร็วที่สูงกว่าอัตราการชักสัญญาณของตาของมนุษย์ เราจะเห็นได้จากว่าหนังยุคเก่าจะมีการกระพริบของภาพหรือมิฉะนั้นการเคลื่อนที่ของภาพจะเร็วกว่าความเป็นจริง และตาของคนเราจะสังเกตการกระพริบได้เมื่อภาพที่ตำแหน่งเดิมหายไปแล้วปรากฏใหม่นานเกินกว่า ๑/๓ วินาที ถ้าเอาฟิล์มข้างต้นมาฉายด้วยเครื่องฉายด้วยอัตราการแสดงผล (Refresh rate) ๖๐ ภาพต่อวินาที โดยที่อัตราการชักสัญญาณของลูกตาคือ ๓๐ ภาพต่อวินาที ถามว่าภาพที่เห็นบนจอภาพด้วยตาจะมีทิศทางและอัตราเร็วอย่างไร

คาบของเข็มนาทีคือ 3600 วินาทีต่อรอบ ดังนั้นอัตราเร็วของการหมุนคือ 1/3600 รอบ/วินาที เพิ่มอัตราเร็วขึ้น 90000 เท่าดังนั้น อัตราเร็วของเข็มคือ 25 รอบต่อวินาที ถ้าชักสัญญาณ 100 ภาพ/วินาที เพราะฉะนั้น ในทุกคาบของการชักสัญญาณ ตำแหน่งของเข็มจะเคลื่อนไป 25/100 = ¼ รอบ ซึ่งแสดงภาพของ 10 เฟรมแรกจากข้างต้น

ถ้าหากแสดงผลด้วยอัตราการฉายซ้ำเป็นสองเท่า (60/30) ของอัตราการชักภาพของตา ดังนั้น ตาจะเห็นภาพเว้นภาพ โดยที่ภาพจะมีลักษณะเป็นสองเข็มทำมุมกัน 180 องศา โดยการมองเห็นนี้ ขึ้นอยู่กับว่า ตาเริ่มต้นมองที่เฟรมใด ถ้ามองครั้งแรกที่เฟรมเลขคี่ ก็จะเห็นภาพในสองเข็มที่ 12 และ 6 นาฬิกา แต่ถ้ามองครั้งแรกที่เลขคู่ จะเห็นภาพเป็นสองเข็มที่ 3 และ 9 นาฬิกา อย่างไรก็ตามตำแหน่งของเข็มจะอยู่คงที่โดยจะมีการฉายซ้ำเข็มเดิมทุก 1/15 วินาที (คิดจาก อัตราเร็วของการฉายเฟรมซ้ำเฟรมของตำแหน่งเดิม ซึ่งจะเวียนมาทุก 4 เฟรม นั่นก็คือ 4/60à1/15) ซึ่งมีค่าน้อยกว่า 1/3 วินาที สรุปว่า ตาเราจะเห็นสองเข็มในทิศทางตรงกันข้ามกัน อยู่นิ่ง ไม่หมุน โดยภาพที่เห็นขึ้นอยู่กับภาพแรก

เพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สมมติฐานของโจทย์ไม่ตรงกับความเป็นจริงนัก เนื่องจากอัราการชักภาพของตาไม่คงที่ ทำให้เป็นไปได้อย่างมากที่ทำให้ไม่ได้รูปที่สม่ำเสมอ ถ้าตอบตามความเป็นจริง ตาคนจะเห็นเป็นรูป สี่เข็มที่ 3, 6, 9 12 นาฬิกา และอยู่นิ่ง แต่การพิจารณาอันนี้ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของโจทย์

๕ (๑๐ คะแนน ทำทุกข้อ)

กำนดให้

  • clip_image098เป็นคาบของการชักสัญญาณ
  • clip_image100เป็นขบวนสัญญาณกระตุ้น (impulse train)ทุกๆคาบเวลา clip_image098[1]
  • clip_image102คือสัญญาณที่ถูกชัก (sampling) มาจากสัญญาณ clip_image007[1] โดยกำหนดให้clip_image105และ
  • clip_image078[1]คือผลลัพธ์ของระบบซึ่งได้จากการ reconstruction clip_image102[1]ด้วยการผ่านตัวกรองที่ให้สัญญาณความถี่ต่ำผ่าน (low-pass filter) ซึ่งตัวกรองนี้กำหนดให้เป็น clip_image109

(ก) กำหนดให้ clip_image111และ clip_image113วินาที ให้วาดกราฟ clip_image115(๒ คะแนน) และแสดงนิพจน์ clip_image078[2](๓ คะแนน)

(ข) กำหนดให้ clip_image117และ clip_image119วินาที ให้วาดกราฟ clip_image115[1](๒ คะแนน) และตอบว่าเกิด aliasing หรือไม่พร้อมอธิบาย (๓ คะแนน)

(ก)

clip_image121, clip_image123 clip_image125

clip_image127

จะเห็นได้ว่า lpf จะกรองความถี่ต่ำกว่า clip_image129ดังนั้น clip_image131 และ clip_image133

(ข)

clip_image135 เพราะฉะนั้นมีความถี่ทุกช่วงความถี่ ไม่เป็น band limited ดังนั้นจะเกิด aliasing เสมอไม่ว่า T จะเป็นเท่าใด

๖ (๑๐ คะแนน -- ทำทั้งสองข้อ)

(ก) ให้อธิบายว่าทำไมผลของ clip_image137 ซึ่งเป็นการแปลงมาจากสัญญาณที่ไม่ต่อเนื่องตามเวลา clip_image139จึงเป็น periodic ทุกคาบความถี่ clip_image141เสมอ ในขณะที่ clip_image009[2]การแปลงจากสัญญาณที่ต่อเนื่องาตามเวลา clip_image007[2]ไม่จำเป็นต้องเป็น periodic (๕ คะแนน)

clip_image145นั้นจริงๆก็เป็น periodic ถ้าหากว่า clip_image147ทั้งนี้การเปลี่ยนค่าของ clip_image149และclip_image151เป็นการเปลี่ยนค่าของ complex exponential ซึ่งเป็นการหมุนค่ารอบวงกลมหนึ่งหน่วย แต่เนื่องจาก จำนวนของแต่ละรอบนั้นคงที่เสมอ เนื่องจาก clip_image153และ clip_image155ทำให้เราสามารถเลือกค่า parameter เพิ่มเติมอีก clip_image157และ clip_image159เพื่อให้clip_image161ได้เสมอ แต่กรณีของ clip_image145[1]นั้น เรามีเพียง clip_image149[1]ตัวเดียวเท่านั้น และค่าของ clip_image149[2]ก็ยังเป็นค่าต่อเนื่อง จึงทำให้ clip_image145[2]ไม่สามารถหาตำแหน่งที่เวียนซ้าในรอบได้

อาจมีผู้มีความเห็นค้านว่า เมือแบ่งย่อยลงไปใน ระหว่างค่า clip_image151[1]ก็อาจจะบอกว่าเราสามารถขยายระยะของการวนซ้ำออกไปจาก ตัวคูณร่วมน้อยของความที่ที่เลือกทั้งหมด ของทุกความถี่ทุกตัวนที่น้อยกว่า clip_image164ซึ่งก็อาจจะกล่าวได้ว่าผลของ clip_image145[3]ก็เป็น periodic จริงๆก็ถูกต้องเพราะจากนิยามของ aperiodic signal ด้วย fourier นั้นก็คือ periodic ที่ clip_image166

(ข) ให้แสดงการพิสูจน์ Inverse Fourier Transform clip_image168 (๕ คะแนน)

จาก clip_image170และดังนั้น clip_image172

clip_image174clip_image176

จากclip_image178clip_image180

clip_image182

๗ (๑๐ คะแนน)

ระบบเวลาต่อเนื่อง Causal, LTI, Finite Dimension, initial at rest ระบบหนึ่งสามารถอธิบายได้ด้วยสมการอนุพันธ์ clip_image184

  • · ให้หาผลตอบสนองสัญญาณกระตุ้น (impulse response) (๔ คะแนน)
  • · ให้หาผลตอบสนองสัญญาณเข้า ถ้ากำหนดให้ clip_image186(๖ คะแนน)

จากโจทย์ clip_image188และดังนั้น clip_image190

และ clip_image192

สุดท้าย clip_image194

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น